อัจฉริยะสร้างได้

“สมองของเรามีเซลล์สมองเท่ากับไอน์สไตน์

ดังนั้น ไอน์สไตน์ฉลาดได้เท่าไหน โดยทฤษฎีแล้วเราก็ฉลาดได้เท่านั้น”

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ก.ค.) ด้วยความที่ไม่รู้จะดูอะไร ก็เลยกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดที่รายการ “จับเข่าคุย” ทางช่อง 3 ซึ่งผู้ดำเนินรายการกำลังสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ดูสวยใส พูดจาท่าทางดูน่ารัก แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือ สิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่ ซึ่งบ่งบอกเลยว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาเลย

เธอคนนี้ คือ “วนิษา เรซ” หรือ “หนูดี” ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านสมอง จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หลายคนที่เคยชมรายการ “อัจฉริยะข้ามคืน” คงคุ้นกับใบหน้าของเธออยู่บ้าง เพราะเธอคือผู้ชนะคนที่ 15 ของรายการนี้ คุณหนูดีได้นำความรู้ที่เธอเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาเขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “อัจฉริยะสร้างได้” หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงอัจฉริยภาพที่คนทุกคนมี 8 ด้าน พร้อมด้วยเคล็ดลับในการพัฒนาอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ

หลังจากชมรายการนี้จบ ก็ทำให้อยากที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างมาก เมื่อออกจากบ้านในวันจันทร์ (16 ก.ค.) จึงได้ไปเดินหาซื้อ แต่ปรากฎว่าหนังสือเล่มนี้ขาดตลาด… เดินกว่า 10 ร้าน ไม่มีเลยสักร้านเดียว และทุกร้านที่ไปถามบอกตรงกันหมดว่า เพิ่งหมดไปเมื่อวานนี้เองค่ะ คงไม่ต้องบอกเลยว่า ใครๆก็อยากอ่านหนังสือเล่มนี้กันทั้งนั้น

จนกระทั่งในที่สุดก็หาซื้อหนังสือเล่มนี้มาจนได้ และเริ่มอ่านทันทีที่ถึงบ้าน ไม่น่าเชื่อ…ที่หนังสือเล่มนี้ที่คิดว่าเป็นหนังสือที่อุดมไปด้วยสาระ แต่กลับเป็นหนังสือที่อ่านง่าย และสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่าอ่านรวดเดียวจบ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่หลังจากได้อ่านแล้ว ก็รู้สึกว่าเวลาที่เสียไปไม่สูญเปล่าเลย หนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาง่ายๆ แต่กลับแฝงไปด้วยสาระและวิธีการที่สามารถทำได้จริงทั้งสิ้น โดยมีสาระสำคัญที่ขอสรุปไว้คร่าวๆ ตามนี้ค่ะ

หนังสือเล่มนี้ได้ทำให้มุมมองของคำว่า “อัจฉริยะ” เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะคนทั่วไปมักมองว่าคนที่เป็นอัจฉริยะต้องเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับความรู้ และไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ มักเป็นคนที่เก่งเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ไม่วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ก็มักจะเป็นภาษาศาสตร์ แต่ความจริงแล้ว อัจฉริยภาพมีมากกว่านั้น และไม่ใช่เรื่องวิชาการด้วย จากทฤษฎีพหุปัญญา หรืออัจฉริยภาพหลายประการ (Multiple Intelligences) ซึ่งเป็นงานวิจัยของดอกเตอร์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเป็นอาจารย์ของคุณหนูดีด้วย ตามทฤษฏีนี้ได้กล่าวว่า มนุษย์เรามีอัจฉริยภาพอย่างน้อย 8 ด้าน คือ

1. อัจฉริยภาพด้านภาษาและการสื่อสาร
2. อัจฉริยภาพด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
3. อัจฉริยภาพด้านมิติสัมพันธ์และการจินตภาพ
4. อัจฉริยภาพด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
5. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจตนเอง
6. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจผู้อื่นและมนุษยสัมพันธ์
7. อัจฉริยภาพด้านธรรมชาติ
8. อัจฉริยภาพด้านดนตรี – ความสามารถในการรักดนตรี

แต่คนแต่ละคนจะมีบางด้านที่โดดเด่นมากกว่าด้านอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และที่สำคัญคือคนทุกคนสามารถเป็นอัจฉริยะได้ ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นอัจฉริยภาพในทุกด้านพร้อมๆกันนะคะ แต่ในช่วงชีวิตหนึ่งๆของคนเรา อาจจะแสดงอัจฉริยภาพเฉพาะแค่บางด้านขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องทำ การฝึกฝน และสภาพแวดล้อม ณ ตอนนั้นด้วย

สำหรับใครที่อยากเป็นอัจฉริยะกันดูบ้าง ในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงลักษณะของอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงแนะนำกิจกรรมที่เป็นการพัฒนาอัจฉริยภาพในด้านนั้นๆ และในตอนท้ายของแต่ละบท คุณหนูดีได้ทำการสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันในรายการอัจฉริยะข้ามคืนที่มีอัจฉริยภาพในด้านนั้นอย่างโดดเด่น เพื่อเป็นประสบการณ์แก่ผู้อ่านในอีกทางหนึ่งด้วย

ในทุกๆหน้าในหนังสือเล่มนี้ คุณหนูดีได้ย้ำเตือนเสมอว่า “อัจฉริยะสร้างได้” ขอเพียงคุณเริ่มทำ ซึ่งหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ต้องเห็นด้วยกับคุณหนูดีว่า “อัจฉริยะสร้างได้” จริงๆค่ะ ขอแค่คุณเปลี่ยนความคิด เลิกพูดคำว่า “ทำไม่ได้” และเริ่มทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำ แล้วคุณจะพบว่าคุณยังสามารถทำอะไรได้อีกหลายๆ อย่างชนิดที่ว่าคุณเองก็คงนึกไม่ถึง และคุณจะพูดว่า “เราก็เป็นอัจฉริยะได้เหมือนกัน”

หนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้” เล่มนี้ จึงถือเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อ แม่ หรือลูก ขอเพียงคุณเป็นคนที่อยากพัฒนาตนเอง อาจจะไม่ได้พัฒนาเพื่อเป็นอัจฉริยะ แต่เป็นการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขที่สุด และที่สำคัญคือสามารถใช้ได้กับคนทุกคน แค่นี้ก็คุ้มค่ากับราคาแล้วล่ะค่ะ และบางทีคุณเองอาจจะพูดว่าหนังสือเล่มนี้ถูกเกินไปหรือเปล่าก็ได้

“ตอนนี้ อะไรที่คุณไม่ได้ทำ แล้วจะเสียดายที่สุดคะ?”

หมายเหตุ: ตอนที่ชอบมากที่สุด คงเป็นช่วงบทสัมภาษณ์คุณเกริกก้อง สวนยศ หรือคุณนก มิสอัลคาซ่า 2005 ซึ่งถือว่าการที่คุณหนูดีเลือกสัมภาษณ์คุณนกถือว่าเหมาะสมมากๆค่ะ อยากให้ลองอ่านกันดูนะคะ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=76906